ทำไมต้องเลือกโปรแกรม GoTrade ของดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส?

ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส เปิดตัวโปรแกรม GoTrade ในประเทศไทย เพื่อเสริมสร้างโอกาสทางการค้าสำหรับธุรกิจท้องถิ่นและเพิ่มการเข้าถึงตลาดโลก โปรแกรมนี้มุ่งเน้นให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย โดยร่วมมือกับหลายองค์กรสำคัญ เช่น กรมส่งเสริม (DITP), สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (OSMEP), ธนาคารเพื่อการและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK), และกรมศุลกากร

สรุปสถิติสำหรับเอสเอ็มอีในประเทศไทย:

  • สัดส่วนของเอสเอ็มอี: 99.54% ของวิสาหกิจทั้งหมดในประเทศไทย
  • จำนวนเอสเอ็มอี: มากกว่า 3.1 ล้านราย
  • การจ้างงาน: กว่า 12.7 ล้านคน หรือ 71.70% ของการจ้างงานทั้งหมด
  • มูลค่า GDP: 34.2% ของ GDP ทั้งประเทศ

เป้าหมายของโปรแกรม GoTrade: สร้างอิมแพคเชิงบวกให้กับเศรษฐกิจไทยผ่านเวิร์คช็อป ‘Trade & Grow Beyond Borders’

ข้อดีของโปรแกรม GoTrade

  1. เพิ่มโอกาสทางการค้า: GoTrade ช่วยให้ธุรกิจท้องถิ่นสามารถขยายตลาดไปยังต่างประเทศได้ง่ายขึ้น โดยฝึกอบรมและเวิร์คช็อปที่ครอบคลุมการค้าข้ามพรมแดน การอีคอมเมิร์ซ และกฎระเบียบศุลกากร
  2. ความเชี่ยวชาญจากพันธมิตร: โปรแกรมนี้รวมความเชี่ยวชาญขององค์กรพันธมิตรที่มีประสบการณ์ในด้านต่าง ๆ เช่น การระหว่างประเทศ การปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการบริหารจัดการทาง
  3. ฝึกอบรมเฉพาะทาง: ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจะได้รับการฝึกอบรมโดยผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรองจากดีเอชแอล ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการส่งออกไปยังตลาดโลก

ข้อเสียที่อาจพบ

  1. ความท้าทายในการนำไปใช้: ผู้ประกอบการบางรายอาจพบอุปสรรคในการนำความรู้ที่ได้รับไปปฏิบัติจริง ซึ่งอาจต้องการการสนับสนุนเพิ่มเติม
  2. ข้อกำหนดการสมัคร: โปรแกรมอาจมีข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตาม เพื่อให้ได้รับการพิจารณาเข้าร่วมโปรแกรม

ประโยชน์ที่ได้รับ

  • การเข้าถึงตลาดโลก: ด้วยเครือข่ายการของดีเอชแอลที่ครอบคลุม 220 ประเทศทั่วโลก ธุรกิจท้องถิ่นจะมีโอกาสมากขึ้นในการขยายตลาด
  • การเสริมสร้างความรู้: การฝึกอบรมและเวิร์คช็อปช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจแนวปฏิบัติทางการค้าทั่วโลกและกฎระเบียบศุลกากรที่เกี่ยวข้อง
  • การสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐและเอกชน: การร่วมมือกับองค์กรสำคัญต่าง ๆ ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจ

คำบรรยายภาพประกอบ

ทำไมต้องเลือกโปรแกรม GoTrade ของดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส?

เฮอร์เบิต วงศ์ภูษณชัย (กลาง) กรรมการผู้จัดการ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย และหัวหน้าภาคพื้นอินโดจีน ร่วมด้วยพันธมิตรจัดเวิร์คช็อป ‘Trade & Grow Beyond Borders’ ภายใต้โปรแกรม GoTrade ในประเทศไทย เพื่อช่วยธุรกิจท้องถิ่นทำการค้าระหว่างประเทศ โดยมีคณะผู้บริหารร่วมเป็นสักขีพยาน ดังนี้:

  • (ขวาสุด) คุณวุฒิศักดิ์ กาญจนาภรณ์ ผู้อำนวยการสำนักตลาดพาณิชย์ดิจิทัล กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP)
  • (ที่ 2 จากขวา) คุณประเสริฐจิต ศรีนิลทา ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารศูนย์ความเป็นเลิศด้านการค้า ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK)
  • (ซ้ายสุด) คุณอนุชิต สารภาพ หัวหน้าฝ่ายบริการศุลกากรที่ 1 กรมศุลกากร
  • (ที่ 2 จากซ้าย) คุณวิทวัส ล่ำซำ ผู้อำนวยการฝ่ายความร่วมมือระหว่างประเทศ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)

คุณเฮอร์เบิต วงศ์ภูษณชัย กรรมการผู้จัดการดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า “การขยายธุรกิจไปต่างประเทศมีความสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ แต่เอสเอ็มอีมักพบอุปสรรคด้านความรู้และข้อกำหนดศุลกากร โปรแกรม GoTrade จึงมุ่งลดอุปสรรคเหล่านี้และช่วยให้ธุรกิจท้องถิ่นสามารถเข้าถึงตลาดโลกได้”

คุณวุฒิศักดิ์ กาญจนาภรณ์ ผู้อำนวยการสำนักตลาดพาณิชย์ดิจิทัล DITP กล่าวเพิ่มเติมว่า “การร่วมมือกับดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส และพันธมิตรช่วยให้เอสเอ็มอีไทยสามารถเอาชนะอุปสรรคและเข้าถึงตลาดโลกใหม่ ๆ ได้”

คุณวิทวัส ล่ำซำ ผู้อำนวยการฝ่ายความร่วมมือระหว่างประเทศ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นที่จะสร้างโอกาสในการการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับเอสเอ็มอีไทย และยกระดับความสามารถในการแข่งขันของพวกเขาในระดับโลก ซึ่งจะส่งผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เมื่อเข้าสู่ช่วงฟื้นตัวหลังการระบาดครั้งใหญ่ ธุรกิจส่งออกจะได้รับประโยชน์จากการขยายตลาด สร้างโอกาสใหม่ ๆ ในเวทีโลกให้กับเอสเอ็มอี ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ GoTrade นี้จะช่วยให้เอสเอ็มอีพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันที่แข็งแกร่ง เพื่อความสำเร็จในตลาดระหว่างประเทศ”

คุณประเสริฐจิต ศรีนิลทา ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารศูนย์ความเป็นเลิศด้านการค้า ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กล่าวว่า “ในฐานะผู้ขับเคลื่อนสำคัญของยุทธศาสตร์การค้าของประเทศไทยเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในระดับโลก เราได้สนับสนุนทั้งด้านเงินทุนและการพัฒนาเอสเอ็มอีมาโดยตลอด แนวทางของเราสอดคล้องกับโครงการของ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเอสเอ็มอีไทยในตลาดการค้าโลก ซึ่งนำไปสู่โปรแกรมความร่วมมือเชิงกลยุทธ์นี้ เรามั่นใจว่าความร่วมมือกับผู้นำในอุตสาหกรรมทั้งสี่แห่งนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการส่งออกของเอสเอ็มอีไทยเป็นอย่างมาก และส่งเสริมความสามารถของเอสเอ็มอีอย่างเต็มศักยภาพในตลาดระหว่างประเทศ”

คุณวิศณุ วัชราวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรมศุลกากร กล่าวว่า “การเพิ่มพูนความรู้เรื่องกระบวนการส่งออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งขั้นตอนศุลกากรจะช่วยเสริมศักยภาพให้เอสเอ็มอีสามารถเชิงกลยุทธ์ เตรียมพร้อมสำหรับการส่งออกอย่างมีประสิทธิภาพ และประเมินได้อย่างครอบคลุม รวมถึงการจัดการกับกฎระเบียบที่หลากหลายของประเทศต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ความเชี่ยวชาญนี้จะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในตลาดโลก เรามั่นใจว่าการอบรมและเวิร์คช็อป “Trade Grow Beyond Borders” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างพันธมิตรชั้นนำในอุตสาหกรรมทั้ง 5 รายนี้ จะช่วยยกระดับศักยภาพเอสเอ็มอีให้มีความได้เปรียบในการแข่งขันที่แข็งแกร่งขึ้นในการค้าระหว่างประเทศ”


ดีเอชแอล – ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระดับโลก

ดีเอชแอล คือผู้นำระดับโลกด้านการให้บริการโลจิสติกส์ โดยมีบริการที่หลากหลายครอบคลุมตั้งแต่การขนส่งสินค้าภายในและระหว่างประเทศ การขนส่งสินค้าอีคอมเมิร์ซและโลจิสติกส์โซลูชั่นครบวงจร การขนส่งด่วนระหว่างประเทศ การขนส่งทางบก ทางเรือ และทางอากาศ ตลอดจนการบริหารจัดการในธุรกิจต่าง ๆ เรามีบุคคลากรกว่า 395,000 คนในมากกว่า 220 ประเทศ จึงสามารถเชื่อมโยงผู้คนและการดำเนินธุรกิจทั่วโลกได้อย่างต่อเนื่องด้วยบริการขนส่งที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ ด้วยความเชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์โซลูชั่นและสถานะที่แข็งแกร่งในตลาดที่กำลังเติบโต อาทิ ด้านเทคโนโลยี ชีววิทยาศาสตร์และบริการทางการแพทย์ วิศวกรรม อุตสาหกรรมการผลิตและพลังงาน รวมถึงธุรกิจยานยนต์และค้าปลีก ดีเอชแอลจึงมั่นใจว่า เราคือ “ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระดับโลก” ที่แท้จริง

ดีเอชแอล เป็นส่วนหนึ่งของดีเอชแอล กรุ๊ป ซึ่งมีรายได้มากกว่า 81,800 ล้านยูโรในปี 2565 ด้วยหลักการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน สังคมและสิ่งแวดล้อม กลุ่มบริษัทฯ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างประโยชน์คืนสู่โลก โดยตั้งเป้าเป็นบริษัทโลจิสติกส์ที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทย ติดตามข่าวสารได้ที่:

โซเชียลมีเดีย: