จับความเคลื่อนไหวธุรกิจโลจิสติกส์ไทยกับการพัฒนารูปแบบใหม่ของ “

สถานการณ์ธุรกิจโลจิสติกส์ไทยในปัจจุบัน อ้างอิงจากรายงานของสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (TPSO) ระบุว่าในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ธุรกิจโลจิสติกส์มีจำนวนนิติบุคคลรวม 40,101 ราย โดยมีการเปิดกิจการใหม่ 367 ราย เพิ่มขึ้น 7.0% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยธุรกิจโลจิสติกส์ที่น่าจับตามอง คือ ธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้ารวมถึงคนโดยสาร ที่มีการเปิดกิจการใหม่จำนวน 176 ราย คิดเป็น 48.0% ของกิจการเปิดใหม่ทั้งหมด ธุรกิจที่มีสัดส่วนการเปิดกิจการใหม่รองลงมา คือ การขนส่งสินค้าอื่น ๆ ทางถนน และตัวแทนดำเนินพิธีการศุลกากร

การลงทุนจากต่างประเทศในธุรกิจโลจิสติกส์ (ก.พ.2566) มีมูลค่า 827.12 ล้านบาท คิดเป็น 9.97% ของการลงทุนในกลุ่มโลจิสติกส์ในประเทศไทย สำหรับธุรกิจที่ต่างชาติเข้ามาลงทุนมากที่สุด ได้แก่ กิจกรรมการบริหารจัดการด้านการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า คิดเป็น 39.4% ของการลงทุนในกลุ่มโลจิสติกส์ในประเทศไทย

เบสท์ (BEST Inc.) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2550 เป็นผู้นำด้านอัจฉริยะแบบครบวงจรจากประเทศจีน และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้เริ่มเข้ามาดำเนินธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 และเริ่มวางรากฐานเครือข่ายการจัดส่งพัสดุด่วนในประเทศไทย เวียดนาม มาเลเซีย และสิงคโปร์ แล้วเสร็จสิ้นในปี พ.ศ. 2563 พร้อมเปิดเครือข่ายโลจิสติกส์ข้ามพรมแดน (Cross border) ระหว่างจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เบสท์ เริ่มต้นธุรกิจขนส่งพัสดุด่วน ต่อด้วยการพัฒนาคลังสินค้าในต่างประเทศ เครือข่ายขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน และการจัดส่งพัสดุชิ้นใหญ่ ในปัจจุบัน เบสท์ ได้สร้างระบบบริการซัพพลายเชนที่สมบูรณ์แบบ เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจโลจิสติกส์ในยุค “โลกาภิวัตน์” นับเป็นการพัฒนากลยุทธ์ที่สำคัญของบริษัท นอกจากนี้ เบสท์ ยังเร่งดำเนินการพัฒนาเครือข่ายขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนระหว่างจีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอเมริกาเหนือ โดยมุ่งเน้นการบริการด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนให้แก่ลูกค้าทั่วโลก

ในปีที่ผ่านมา เบสท์ ประเทศไทย ได้ขยายธุรกิจรวมถึงพัฒนาบริการต่าง ๆ  เพื่อรองรับอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตเพิ่มขึ้น ปัจจุบัน BEST Express (ส) บริการขนส่งพัสดุด่วนในประเทศไทย มีสาขาเปิดให้บริการ รับ-ส่งพัสดุด่วน รวมถึงมีศูนย์กระจายพัสดุ HUB และศูนย์คัดแยกพัสดุย่อย DC รวมกันกว่า 10 แห่ง ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วไทย อีกทั้งยังได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ด้านอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย และพาร์ทเนอร์กับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงมีการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีทั้งซอฟต์แวร์และเครื่องจักรต่าง ๆ ที่ทันสมัยจาก เบสท์ (BEST Inc.) บริษัทแม่ ในประเทศจีน มาใช้ภายในศูนย์กระจายพัสดุ (HUB) ของ BEST Express กรุงเทพฯ และนำระบบ  (Customer Relation ) ที่พัฒนาขึ้นจากบริษัทแม่ มาใช้ในศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ของเบสท์ เอ็กซ์เพรส (BEST Contact Center) เพื่อให้บริการลูกค้าที่ครอบคลุมทุกช่องทางแบบครบวงจรและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ เบสท์ ยังมีการพัฒนาอีกหนึ่งธุรกิจที่เรียกว่า BEST Software (เบสท์ ซอฟต์แวร์) ซึ่งเป็นบริการโซลูชันดิจิทัลแบบครบวงจร ผู้ช่วยการขายออนไลน์ยุคใหม่ ที่ทั่วโลกใช้กันในระดับสากลรวมถึงประเทศไทย เช่น ระบบ ezOrder (อีซี่ออเดอร์), ezShop (อีซี่ช้อป) และ GWMS (Global Management System) เป็นต้น

เบสท์ (BEST Inc.) มุ่งเน้นการสร้างอัจฉริยะและมีประสิทธิภาพ ผ่านนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ด้วยการนำเทคโนโลยีสารสนเทศ ปัญญาประดิษฐ์ และฐานข้อมูล Big Data มาปรับใช้ เพื่อสร้างความสามารถในการให้บริการด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนที่ครอบคลุม ทั้งแบบออนไลน์ และออฟไลน์เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ของบริษัท ที่ว่า “เราจะเสริมสร้างธุรกิจ เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น (Empower Business, Enrich Life)” ในยุคของเศรษฐกิจดิจิทัล

ที่มา http://www.tpso.moc.go.th/th/สถานการณ์ธุรกิจโลจิสติกส์ไทย%20ฉบับเดือนกุมภาพันธ์%202566