เปิดประตูความสำเร็จกับการลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์ ด้วยกลยุทธ์ศึกษาตลาดก่อนลงทุน

ก้าวเข้าสู่ธุรกิจแฟรนไชส์ BEST Express ( ) กับบริษัทเจ้าแรกและเจ้าเดียวในไทย ที่ให้สิทธิ์แฟรนไชส์หลัก (First Franchise) บริในพื้นที่ได้แบบ 100% เปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้ามาสร้างผลกำไรและเป็นเจ้าของธุรกิจขนส่งพัสดุด่วน BEST Express ภายใต้การดูแลของ บริษัท เบสท์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด

นายโชคชัย แซ่ฝู (คุณแจ็คกี้) เจ้าของแฟรนไชส์  Express สาขาเทพารักษ์ จังหวัดสมุทรปราการ กล่าวถึงแนวทางการทำธุรกิจ BEST Express ว่า BEST Express ในประเทศไทยตอนนี้กำลังเติบโต ประกอบกับในช่วง 2-3 ปี ที่โตขึ้นกว่า 80% ถ้าเทียบกับเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนทำธุรกิจกับ BEST Express ได้ศึกษาข้อมูลและพบว่าหุ้นส่วนของ BEST นั้นมี อาลีบาบา ถือหุ้นอยู่ด้วย จึงรู้สึกว่าธุรกิจตัวนี้น่าจะเติบโตได้ไวกว่าธุรกิจอื่น โดยในช่วงแรกที่เริ่มทำธุรกิจ ปริมาณพัสดุต่อวันมีแค่ไม่เกิน 20-30 ชิ้น แต่หลังจากที่บริหารไป 8 ถึง 9 เดือน ปริมาณพัสดุเพิ่มขึ้นจากเดิมเกือบ 100% และช่วงที่โควิดกำลังเข้ามาช่วงแรก แทบไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจของเรา ตรงกันข้ามคือ ปริมาณในการเข้ารับพัสดุและการนำจ่ายพัสดุของเราเพิ่มขึ้นกว่า 50% จากยอดที่ผ่าน ๆ มา

“จุดเด่นของ BEST Express ที่ต่างจากแฟรนไชส์เจ้าอื่น คือ เจ้าของแฟรนไชส์ที่มาลงทุนกับ BEST Express จะได้ถือกรรมสิทธิ์ในพื้นที่ 100% สามารถจัดการในพื้นได้โดยใช้ระบบที่เราวางแผนจัดการได้เองอย่างอิสระ เหตุผลที่เราเลือกมาเปิดสาขาที่เทพารักษ์ เพราะในอำเภอเมืองสมุทรปราการ เทพารักษ์เป็นแหล่งที่รวบรวมพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์อยู่เยอะที่สุด จะมีโกดังคลังและโรงงานตั้งอยู่ค่อนข้างมาก และที่สำคัญคือมีนักธุรกิจจากจีนที่มาลงทุนอยู่ที่อำเภอเมืองค่อนข้างเยอะ รายได้หลัก ๆ ของเรามากจาก รายได้จากขากระจาย, รายได้ขารับจากแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น ลาซาด้า, รายได้จากการเข้ารับพัสดุจากแพลตฟอร์มอื่น ๆ และอีกส่วนมาจากการสนับสนุนของ BEST Express ด้วย” นายโชคชัย กล่าว

นางสาว วิภาดา อุ่นอำไภ (คุณดา) ผู้จัดการ BEST Express สาขาเทพารักษ์ กล่าวถึงการบริหารจัดการที่สาขาว่า เราจะต้องศึกษาแต่ละเดือนว่าจะมีปริมาณพัสดุเข้ามามากหรือน้อยในช่วงไหน ศึกษาโปรโมชันของลูกค้าที่จะมาส่งพัสดุของเรา ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ หรือพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ เพื่อประเมินปริมาณของพัสดุที่จะเข้ามาที่สาขา จะได้จัดเตรียมพนักงานและเอาท์ซอร์สในการจัดส่ง-รับให้เพียงพอต่อยอดพัสดุที่จะเข้ามา เราให้ความสำคัญกับทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าทั้งผู้รับและผู้ส่ง รวมไปถึงพนักงานของเราที่จะมีการอบรมให้ไหว้สวัสดีลูกค้าทุกครั้งเมื่อไปรับหรือส่งพัสดุ หากเกิดกรณีลูกค้าคีย์ข้อมูลผิดหรือให้ที่อยู่จัดส่งมาผิด เราจะรีบแจ้งประสานงานกับสาขาปลายทางทันที เพื่อไม่ให้การส่งพัสดุเกิดความล่าช้ามากขึ้น เรายึดถือว่าจะต้องมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในหมู่พนักงาน มีความเข้าใจในหลักการบริการที่แท้จริง จึงจะทำให้ BEST Express สามารถเติบโตได้

“อยากแนะนำผู้ที่จะมาลงทุนว่า ต้องมีความรักในงานบริการ ต้องมีความซื่อสัตย์ จริงใจ ใส่ใจต่อลูกค้า มีทีมการตลาดที่ดีเพื่อหาปริมาณพัสดุเข้ามาที่สาขา พร้อมที่จะตอบหรือแก้ปัญหาเมื่อลูกค้าต้องการ ต้องพร้อมที่จะรับมือในทุก ๆ ด้านของการทำธุรกิจขนส่งพัสดุด่วน เช่น การหายอดพัสดุ การรับมือของความเสี่ยงเศรษฐกิจต่าง ๆ ปัญหาในองค์กร แต่ถ้าสู้และรับมือได้ดี ธุรกิจนี้ก็จะเติบโตขึ้นได้ในอนาคต” นางสาววิภาดา กล่าว

สำหรับนักลงทุนหรือผู้ประกอบการที่สนใจลงทุนเปิดธุรกิจแฟรนไชส์ขนส่งพัสดุด่วนกับ เบสท์ เอ็กซ์เพรส ผู้ให้บริการขนส่งพัสดุด่วนทั่วไทย เพื่อเปิดประตูความสำเร็จให้กับตัวเอง โดยสามารถดูรายละเอียดการลงทุนเพิ่มเติมและกรอกข้อมูลใบสมัครร่วมเปิดธุรกิจกับ BEST Express (เบสท์ เอ็กซ์เพรส) ได้ที่ LINE Official Account ของ BEST FS CENTER ที่ลิงก์นี้ https://lin.ee/jj3oCAb