เนื้อหา มีอะไรบ้างนะ!
Q&A เหมาะสำหรับการอ่านสอบหรือทำการบ้าน
Q1: การจัดซื้อ (Purchasing) คืออะไร?
A1: การจัดซื้อคือกระบวนการที่มุ่งเน้นการจัดหาสินค้าหรือวัตถุดิบตามความต้องการที่กำหนดไว้ของหน่วยงานภายในองค์กร โดยมีหน้าที่ในการดำเนินการตามคำสั่งซื้อและทำให้แน่ใจว่าสินค้าหรือวัตถุดิบที่ต้องการถูกจัดส่งตรงเวลาและตรงตามมาตรฐานที่กำหนด
Q2: วัตถุประสงค์หลักของการจัดซื้อคืออะไร?
A2:
- จัดหาวัตถุดิบและอุปกรณ์ตามความต้องการของหน่วยงาน
- ประสานงานกับผู้ขายเพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพและราคาเหมาะสม
- ตรวจสอบและดูแลการจัดส่งให้ตรงตามเวลาที่กำหนด
Q3: คุณสมบัติสำคัญของการจัดซื้อคืออะไร?
A3:
- การติดต่อสื่อสารกับผู้ขาย: เน้นการสื่อสารเพื่อให้ได้สินค้าตามความต้องการและงบประมาณ
- การจัดการสต็อก: ดูแลให้มีวัตถุดิบพร้อมใช้งานเพื่อสนับสนุนการผลิต
Q4: การจัดหา (Procurement) คืออะไร?
A4: การจัดหาเป็นกระบวนการที่มีขอบเขตกว้างกว่าการจัดซื้อ โดยรวมถึงการวิเคราะห์และการตัดสินใจในการเลือกแหล่งจัดหาวัตถุดิบหรือบริการที่มีคุณภาพสูงในราคาที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มผลกำไรและประสิทธิภาพขององค์กร
Q5: วัตถุประสงค์หลักของการจัดหาคืออะไร?
A5:
- จัดหาวัตถุดิบและบริการที่ตอบสนองความต้องการขององค์กร
- เลือกแหล่งจัดหาที่เชื่อถือได้และมีราคาที่เหมาะสม
- สร้างและรักษาความสัมพันธ์กับผู้ขายเพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพและบริการที่ดี
Q6: คุณสมบัติสำคัญของการจัดหาคืออะไร?
A6:
- การวิเคราะห์และการตัดสินใจ: เน้นการประเมินและเลือกแหล่งจัดหาที่ดีที่สุดเพื่อคุณภาพและราคาที่คุ้มค่า
- การจัดการความเสี่ยง: ตรวจสอบและจัดการความเสี่ยงในการจัดหาวัตถุดิบหรือบริการเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
สรุปจบ! ความแตกต่างระหว่างการจัดซื้อ (Purchasing) กับการจัดหา (Procurement)
การจัดซื้อ (Purchasing) vs. การจัดหา (Procurement): ความแตกต่างที่สำคัญ
การจัดซื้อ (Purchasing) และการจัดหา (Procurement) เป็นสองกระบวนการหลักในการบริหารจัดการทรัพยากรขององค์กร ซึ่งมีความแตกต่างกันในแง่ของวัตถุประสงค์และหน้าที่:
การจัดซื้อ (Purchasing)
วัตถุประสงค์หลัก:
- จัดหาสินค้าหรือวัตถุดิบตามความต้องการที่กำหนด
- ประสานงานกับผู้ขายเพื่อให้ได้สินค้าที่ตรงตามข้อกำหนด
คุณสมบัติสำคัญ:
- การติดต่อสื่อสารกับผู้ขาย: เน้นการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้ได้สินค้าตามความต้องการและงบประมาณที่กำหนด
- การจัดการสต็อก: ตรวจสอบและดูแลให้มีวัตถุดิบเพียงพอในการสนับสนุนกระบวนการผลิต
การจัดหา (Procurement)
วัตถุประสงค์หลัก:
- วิเคราะห์และเลือกแหล่งจัดหาที่ดีที่สุดเพื่อความคุ้มค่า
- สร้างและรักษาความสัมพันธ์กับผู้ขายเพื่อรับสินค้าที่มีคุณภาพและบริการที่ดี
คุณสมบัติสำคัญ:
- การวิเคราะห์และการตัดสินใจ: ประเมินและเลือกแหล่งจัดหาที่ดีที่สุดเพื่อให้ได้สินค้าหรือบริการที่มีคุณภาพและราคาที่เหมาะสม
- การจัดการความเสี่ยง: ตรวจสอบและจัดการความเสี่ยงในการจัดหาวัตถุดิบหรือบริการ
ตารางเปรียบเทียบ: การจัดซื้อ (Purchasing) vs. การจัดหา (Procurement)
ด้าน | การจัดซื้อ (Purchasing) | การจัดหา (Procurement) |
---|---|---|
การควบคุมสต็อก | ควบคุมสต็อกตามความต้องการ อาจมีความไม่สมดุล | ควบคุมสต็อกโดยเลือกแหล่งจัดหาที่ดีที่สุด สต็อกมีความสมดุลดี |
การจัดส่ง | มุ่งเน้นการจัดส่งตรงเวลา ลดการล่าช้า | เลือกซัพพลายเออร์ที่เชื่อถือได้ การจัดส่งตรงเวลาและแม่นยำ |
ความสัมพันธ์กับผู้ขาย | ทำธุรกรรมกับผู้ขายที่มีอยู่แล้ว อาจไม่พัฒนาความสัมพันธ์ระยะยาว | สร้างและรักษาความสัมพันธ์ระยะยาว ส่งผลให้การจัดการดีขึ้น |
การประหยัดต้นทุน | ต้นทุนการจัดซื้อไม่สูงนัก การต่อรองราคาหรือเงื่อนไขจำกัด | การต่อรองราคาและเงื่อนไขได้ดี ลดต้นทุนรวมของการจัดหา |
การจัดการเอกสาร | ใช้เอกสารและข้อมูลที่มีอยู่ในการทำธุรกรรม | ใช้ข้อมูลในการวิเคราะห์และตัดสินใจ การจัดการเอกสารมีความชัดเจน |
ข้อดี | ทำงานเร็ว ต้นทุนต่ำ | การต่อรองราคาได้ดี คุณภาพสูง |
ข้อเสีย | อาจไม่สามารถต่อรองราคาได้ดี ข้อมูลคุณภาพจำกัด | ซับซ้อน ใช้เวลานานในการคัดเลือกและวิเคราะห์แหล่งจัดหา |
ค่าเสียเวลา | ใช้เวลาน้อยในการทำธุรกรรม | ใช้เวลามากในการคัดเลือกและวิเคราะห์แหล่งจัดหา |
ประโยชน์ที่ได้รับ | สินค้าตามความต้องการ ลดความเสี่ยงขาดแคลน | คุณภาพสูง ราคาดี การจัดการที่มีประสิทธิภาพ |
ผลกระทบต่อโลจิสติกส์
การจัดซื้อ (Purchasing):
- การควบคุมสต็อก: การจัดซื้อมักเน้นการเติมเต็มสต็อกตามความต้องการโดยเร็ว ซึ่งอาจทำให้สต็อกมีความไม่สมดุลหากไม่คำนึงถึงปริมาณที่เหมาะสม
- การจัดส่ง: ควบคุมการจัดส่งให้ตรงตามเวลาที่กำหนด ซึ่งสามารถลดการล่าช้าในการจัดส่ง
- ความสัมพันธ์กับผู้ขาย: มักทำธุรกรรมกับผู้ขายที่มีอยู่แล้ว ทำให้ความสัมพันธ์กับผู้ขายอาจไม่เน้นการพัฒนาความสัมพันธ์ในระยะยาว
- การประหยัดต้นทุน: ต้นทุนการจัดซื้ออาจไม่สูงนัก แต่ไม่สามารถต่อรองราคาหรือเงื่อนไขที่ดีได้มากนัก
การจัดหา (Procurement):
- การเลือกแหล่งจัดหา: การเลือกแหล่งจัดหาที่ดีที่สุดช่วยให้การจัดการโลจิสติกส์มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- การจัดส่งและการควบคุม: การเลือกซัพพลายเออร์ที่เชื่อถือได้ทำให้การจัดส่งมีความแม่นยำและลดปัญหาการขาดแคลน
- การสร้างความสัมพันธ์: การสร้างและรักษาความสัมพันธ์ระยะยาวกับผู้ขายช่วยให้การจัดการโลจิสติกส์มีความยั่งยืน
- การประหยัดต้นทุน: การต่อรองราคาและเงื่อนไขที่ดีช่วยลดต้นทุนรวมของการจัดหา ทำให้การจัดการต้นทุนโลจิสติกส์มีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างการจัดซื้อและการจัดหาในชีวิตจริง
- การจัดซื้อ: หากคุณต้องการซื้อวัตถุดิบสำหรับการผลิตสินค้าคุณจะดำเนินการตามคำสั่งซื้อที่ได้รับจากแผนกผลิตและตรวจสอบการจัดส่งให้ตรงตามเวลาที่กำหนด
- การจัดหา: ถ้าคุณต้องการเลือกซัพพลายเออร์ใหม่สำหรับวัสดุในการผลิต คุณจะต้องวิเคราะห์แหล่งจัดหาเปรียบเทียบราคาและคุณภาพ และสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับซัพพลายเออร์เพื่อให้ได้เงื่อนไขที่ดีที่สุด