เนื้อหา มีอะไรบ้างนะ!
เข้าใจ 1PL 2PL 3PL 4PL 5PL: คืออะไรและแตกต่างกันอย่างไร
1PL (First-party Logistics Service Provider)
1PL หมายถึง ซัพพลายเออร์ที่ทำธุรกรรมด้านโลจิสติกส์ด้วยตนเอง โดยไม่มีการพึ่งพาผู้ให้บริการภายนอก เช่น ผู้ขายสินค้าที่ขนส่งสินค้าให้ลูกค้าด้วยตัวเอง โดยตัวอย่างเช่น ผู้ผลิตที่จัดส่งสินค้าของตนเองให้กับลูกค้าโดยตรง ไม่ผ่านตัวกลาง
2PL (Second-party Logistics Service Provider)
2PL หมายถึง การที่ลูกค้าทำธุรกรรมโลจิสติกส์ด้วยตัวเอง หรือใช้ผู้ให้บริการการขนส่งสินค้า เช่น การขนส่งทางบก, น้ำ, หรืออากาศ โดยลูกค้าเป็นผู้รับสินค้าจากซัพพลายเออร์หรือลูกค้าใช้บริการขนส่งสินค้าด้วยตนเอง ตัวอย่างเช่น บริษัทที่ใช้รถขนส่งสินค้าของตนเองในการส่งสินค้าไปยังลูกค้า
3PL (Third Party Logistics Service Provider)
3PL หมายถึง ผู้ให้บริการที่จัดการกิจกรรมโลจิสติกส์ทั้งหมดหรือบางส่วน เช่น การขนส่ง, การจัดเก็บสินค้า, การกระจายสินค้า และบริการด้านการเงิน การใช้บริการ 3PL ช่วยให้ธุรกิจสามารถมุ่งเน้นไปที่กิจกรรมหลักโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดการโลจิสติกส์เอง ตัวอย่างเช่น บริษัทที่จ้าง 3PL เพื่อจัดการคลังสินค้าและขนส่งสินค้าให้กับลูกค้า
4PL (Fourth Party Logistics Service Provider)
4PL หมายถึง ผู้ให้บริการที่พัฒนาเพิ่มเติมจาก 3PL โดยรวมเทคโนโลยีสารสนเทศและการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาระบบโลจิสติกส์และเครือข่ายการจัดการภายในห่วงโซ่อุปทาน เช่น บริษัทที่ใช้บริการ 4PL เพื่อติดตามและจัดการการขนส่งในหลายช่องทาง พร้อมทั้งให้คำปรึกษาด้านการพัฒนาระบบโลจิสติกส์
5PL (Fifth Party Logistics Service Provider)
5PL หมายถึง ธุรกิจที่ให้บริการตลาด E-Business โดยจัดหา 3PL และ 4PL และจัดการโซ่อุปทานผ่านระบบ E-Commerce โดยมุ่งเน้นที่การสร้างความยืดหยุ่นและคุ้มค่าในห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ตัวอย่างเช่น บริษัทที่จัดการโซ่อุปทานทั้งหมดของลูกค้า รวมถึงการใช้ระบบสารสนเทศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการสินค้าทั่วโลก
ปัจจุบัน การแบ่งประเภทของผู้ให้บริการโลจิสติกส์ (Logistics Service Providers) มักจะจำกัดอยู่ที่ 1PL ถึง 5PL
แต่มีแนวโน้มที่จะมีการพัฒนาและปรับปรุงรูปแบบการให้บริการโลจิสติกส์เพิ่มเติมในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในยุคดิจิทัลและการพัฒนาเทคโนโลยี
การพัฒนาแนวคิดใหม่ในโลจิสติกส์:
- 6PL (Sixth-party Logistics)
- แนวคิด: เป็นการพัฒนาแนวคิดที่รวมความสามารถของ 5PL กับความสามารถด้านดิจิทัลและการวิเคราะห์ข้อมูลในระดับสูง โดยเน้นการใช้เทคโนโลยี AI, การวิเคราะห์ข้อมูล Big Data, และการจัดการเครือข่ายที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น
- ตัวอย่าง: การจัดการซัพพลายเชนที่มีการรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลหลายแหล่งและการใช้ AI ในการคาดการณ์ความต้องการและจัดการสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพ
- 7PL (Seventh-party Logistics)
- แนวคิด: ยังเป็นแนวคิดที่พัฒนาไปตามแนวทางที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและความสามารถในการจัดการโลจิสติกส์ระดับสากลที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น เช่น การบริหารจัดการระบบการขนส่งข้ามพรมแดนในหลายทวีป
- ตัวอย่าง: การจัดการโลจิสติกส์ที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมโยงระหว่างหลายระบบการขนส่งระหว่างประเทศและการให้บริการที่ครอบคลุมการขนส่งสินค้าทุกประเภททั่วโลก
ถึงแม้จะยังไม่มีการยอมรับหรือการใช้คำว่า 6PL หรือ 7PL อย่างเป็นทางการ แต่แนวคิดเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงในวิธีการให้บริการโลจิสติกส์เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในยุคปัจจุบัน
ตัวอย่างการใช้บริการแต่ละประเภท
1PL (First-party Logistics)
- ตัวอย่าง: บริษัท A เป็นผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีโรงงานผลิตในกรุงเทพฯ และคลังสินค้าในภูเก็ต บริษัท A ใช้รถบรรทุกของตนเองในการขนส่งเครื่องใช้ไฟฟ้าจากโรงงานไปยังลูกค้าและร้านค้าปลีกทั่วประเทศ
- รายละเอียด: บริษัท A มีการควบคุมการขนส่งเองทั้งหมด รวมถึงการจัดเตรียมสินค้าจากคลังและการจัดการการขนส่งไปยังปลายทาง
2PL (Second-party Logistics)
- ตัวอย่าง: บริษัท B เป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางบก โดยที่ลูกค้าของบริษัท B เป็นผู้จัดการคลังสินค้าและเตรียมสินค้าสำหรับการขนส่ง บริษัท B รับผิดชอบเฉพาะการขนส่งสินค้าจากคลังของลูกค้าไปยังจุดหมายปลายทาง
- รายละเอียด: บริษัท B มีรถขนส่งที่ใช้ในการจัดส่งสินค้า แต่ลูกค้าเป็นผู้ดูแลการจัดเตรียมและจัดการคลังสินค้าด้วยตนเอง
3PL (Third-party Logistics)
- ตัวอย่าง: บริษัท C ให้บริการด้านโลจิสติกส์ครบวงจร ซึ่งรวมถึงการจัดเก็บสินค้า, การขนส่ง, และการจัดการคำสั่งซื้อ บริษัท C ทำหน้าที่จัดการการขนส่งสินค้าจากคลังของลูกค้าไปยังลูกค้าปลายทาง
- รายละเอียด: บริษัท C ช่วยลูกค้าในการจัดการทั้งการเก็บรักษาสินค้าและการขนส่ง รวมถึงการติดตามสถานะคำสั่งซื้อและการบริหารจัดการอื่น ๆ
4PL (Fourth-party Logistics)
- ตัวอย่าง: บริษัท D ให้บริการการจัดการโลจิสติกส์ทั้งหมด พร้อมทั้งให้คำปรึกษาด้านการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น การพัฒนาระบบการจัดการซัพพลายเชนและการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
- รายละเอียด: บริษัท D ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการโลจิสติกส์ที่มุ่งเน้นการพัฒนาระบบและให้คำปรึกษาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในซัพพลายเชน
5PL (Fifth-party Logistics)
- ตัวอย่าง: บริษัท E เป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่เน้นการจัดการ E-Commerce โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อบริหารโซ่อุปทานและการขนส่งทั่วโลก บริษัท E ใช้ระบบ E-Commerce และเทคโนโลยีในการจัดการและควบคุมการดำเนินงานทั่วโลก
- รายละเอียด: บริษัท E ดูแลการจัดการโลจิสติกส์ในระดับสากล รวมถึงการใช้ระบบการจัดการข้อมูลและการดำเนินงานที่ซับซ้อนเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและลดต้นทุนในการจัดการซัพพลายเชน
การพัฒนาแนวคิดใหม่ในโลจิสติกส์
6PL (Sixth-party Logistics)
- แนวคิด: การพัฒนาแนวคิดที่รวมความสามารถของ 5PL กับการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น AI และ Big Data เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการซัพพลายเชนและคาดการณ์ความต้องการ
- ตัวอย่าง: บริษัท X ใช้เทคโนโลยี AI และการวิเคราะห์ Big Data เพื่อรวมข้อมูลจากหลายแหล่งและคาดการณ์ความต้องการสินค้าได้อย่างแม่นยำ รวมถึงการจัดการสินค้าคงคลังในระดับสูง
7PL (Seventh-party Logistics)
- แนวคิด: การจัดการโลจิสติกส์ที่ซับซ้อนมากขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อเชื่อมโยงระบบการขนส่งระหว่างประเทศและการบริหารจัดการโลจิสติกส์ระดับสากล
- ตัวอย่าง: บริษัท Y ใช้ระบบการจัดการโลจิสติกส์ระดับโลกที่เชื่อมโยงหลายระบบการขนส่งข้ามพรมแดน เพื่อจัดการการขนส่งสินค้าทุกประเภทจากหลายทวีปอย่างมีประสิทธิภาพ
ตารางที่สรุปข้อดี ข้อเสีย และประโยชน์
ของแต่ละประเภทของผู้ให้บริการโลจิสติกส์ (1PL, 2PL, 3PL, 4PL, 5PL อนาคต 6PL และ 7PL) รวมถึงข้อเสียที่อาจเกิดขึ้น
ประเภท ข้อดี ข้อเสีย ประโยชน์ เสียเวลา 1PL – การควบคุมการขนส่งอย่างเต็มที่
– ไม่ต้องพึ่งพาผู้ให้บริการภายนอก– ต้นทุนสูงในการจัดการและบำรุงรักษา
– ขาดความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง– การควบคุมการขนส่งและการจัดการสินค้าดีขึ้น – เวลาสำหรับการจัดการและบำรุงรักษารถขนส่ง 2PL – การจัดการการขนส่งเฉพาะทาง
– ลดภาระการจัดการจากฝ่ายใน– ขาดการควบคุมเต็มที่
– ต้องพึ่งพาผู้ให้บริการภายนอก– ประสิทธิภาพการขนส่งที่ดีขึ้น
– ลดภาระในการจัดการการขนส่ง– เวลาที่ใช้ในการประสานงานกับผู้ให้บริการ 3PL – บริการครบวงจร (ขนส่ง, คลังสินค้า, การจัดการคำสั่งซื้อ)
– ลดต้นทุนและเพิ่มความคล่องตัว– ขาดการควบคุมในบางส่วน
– การพึ่งพาผู้ให้บริการ– การจัดการซัพพลายเชนที่มีประสิทธิภาพ
– ลดความยุ่งยากในการจัดการภายใน– เวลาที่ใช้ในการเลือกและประเมินผู้ให้บริการ 4PL – การจัดการโลจิสติกส์ที่รวมเทคโนโลยีและการให้คำปรึกษา
– เพิ่มประสิทธิภาพซัพพลายเชน– ต้นทุนบริการสูง
– อาจซับซ้อนในการจัดการ– การบริหารจัดการซัพพลายเชนแบบครบวงจร
– การเพิ่มประสิทธิภาพผ่านการให้คำปรึกษา– เวลาที่ใช้ในการพัฒนาและบูรณาการเทคโนโลยี 5PL – การจัดการโลจิสติกส์ผ่าน E-Commerce
– เทคโนโลยีขั้นสูงในการบริหารโซ่อุปทาน– การลงทุนในเทคโนโลยีสูง
– การจัดการซับซ้อน– การบริหารซัพพลายเชนทั่วโลก
– เพิ่มความยืดหยุ่นและลดต้นทุน– เวลาที่ใช้ในการพัฒนาและดูแลระบบ E-Commerce 6PL – การใช้ AI และ Big Data เพื่อการคาดการณ์
– การจัดการข้อมูลหลายแหล่งอย่างมีประสิทธิภาพ– การพึ่งพาเทคโนโลยีสูง
– ความซับซ้อนในการจัดการข้อมูล– การคาดการณ์ความต้องการและการจัดการสินค้าคงคลังที่แม่นยำ
– การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการ– เวลาที่ใช้ในการพัฒนาและปรับใช้เทคโนโลยี 7PL – การเชื่อมโยงหลายระบบการขนส่งระหว่างประเทศ
– การจัดการโลจิสติกส์ระดับโลก– การลงทุนและการจัดการซับซ้อน
– การพึ่งพาผู้ให้บริการหลายราย– การจัดการโลจิสติกส์ทั่วโลก
– การจัดการการขนส่งข้ามพรมแดนที่มีประสิทธิภาพ– เวลาที่ใช้ในการบูรณาการและจัดการหลายระบบ
เนื้อหาสำหรับทำการบ้านและเตรียมสอบ
- 1PL: การจัดการโลจิสติกส์เองทั้งหมด
- 2PL: จ้างขนส่งเฉพาะทาง
- 3PL: จ้างบริการจัดการโลจิสติกส์ทั้งระบบ
- 4PL: การจัดการที่รวมเทคโนโลยีและคำปรึกษา
- 5PL: การบริหารโซ่อุปทานผ่าน E-Commerce
Q&A: เข้าใจ 1PL, 2PL, 3PL, 4PL, 5PL: คืออะไรและแตกต่างกันอย่างไร
Q1: 1PL คืออะไร?
A1: 1PL (First-party Logistics Service Provider) หมายถึง ซัพพลายเออร์ที่จัดการโลจิสติกส์ด้วยตนเอง เช่น ผู้ขายสินค้าขนส่งสินค้าให้ลูกค้าโดยตรง ตัวอย่างเช่น ผู้ผลิตที่จัดส่งสินค้าจากโรงงานไปยังลูกค้าเอง
Q2: 2PL คืออะไร?
A2: 2PL (Second-party Logistics Service Provider) หมายถึง การใช้บริการขนส่งเฉพาะทาง เช่น รถขนส่งหรือการขนส่งทางน้ำ ลูกค้าเป็นผู้จัดการสินค้าด้วยตัวเองแล้วจ้างขนส่ง ตัวอย่างเช่น บริษัทที่มีรถขนส่งเองในการส่งสินค้า
Q3: 3PL คืออะไร?
A3: 3PL (Third-party Logistics Service Provider) คือ ผู้ให้บริการจัดการกิจกรรมโลจิสติกส์ เช่น ขนส่ง, จัดเก็บ, กระจายสินค้า ตัวอย่างเช่น บริษัทที่จ้าง 3PL เพื่อจัดการคลังสินค้าและขนส่ง
Q4: 4PL คืออะไร?
A4: 4PL (Fourth-party Logistics Service Provider) เป็นผู้ให้บริการที่ครอบคลุมมากกว่า 3PL รวมถึงเทคโนโลยีสารสนเทศและการให้คำปรึกษาด้านการพัฒนาโลจิสติกส์ ตัวอย่างเช่น การใช้ 4PL เพื่อติดตามการขนส่งและวางแผนการจัดการซัพพลายเชน
Q5: 5PL คืออะไร?
A5: 5PL (Fifth-party Logistics Service Provider) คือ บริการที่เน้นการจัดการโซ่อุปทานผ่าน E-Commerce โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น AI และ Big Data ในการบริหารโซ่อุปทานทั่วโลก
สรุปประเภทผู้ให้บริการโลจิสติกส์
ประเภท | ข้อดี | ข้อเสีย | ประโยชน์ |
---|---|---|---|
1PL | ควบคุมได้เต็มที่ | ต้นทุนสูง, ขาดความเชี่ยวชาญ | การขนส่งด้วยตัวเอง |
2PL | ลดภาระจากฝ่ายใน | ขาดการควบคุม, พึ่งพาผู้ให้บริการ | จัดการขนส่งเฉพาะทาง |
3PL | บริการครบวงจร | ขาดการควบคุมบางส่วน | การจัดการโลจิสติกส์ที่ยืดหยุ่น |
4PL | การจัดการเชิงกลยุทธ์ | บริการซับซ้อน, ต้นทุนสูง | การพัฒนาระบบและการให้คำปรึกษา |
5PL | การจัดการ E-Commerce | ลงทุนในเทคโนโลยีสูง | ควบคุมโซ่อุปทานทั่วโลก |