Industrial Logistics Performance Index (ILPI) เป็นเครื่องมือช่วยในการประเมินประสิทธิภาพขององค์กร ในการบริหารจัดการภายในองค์กรโดยนำเอาทั้ง 9 กิจกรรม ภายในองค์กร มาประเมินใน 3 มิติ ซึ่งจะช่วยให้สามารถวิเคราะห์และประเมินองค์กรได้ในระดับเมทริกซ์
ตัวชี้วัดวัดประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ ที่ดำเนินการจัดทำมีจำนวน 9 กิจกรรม
- 1. การให้บริการแก่ลูกค้าและกิจกรรมสนับสนุน (Customer Service and Support)
- 2. การจัดซื้อจัดหา (Purchasing and Procurement)
- 3. การสื่อสารด้านโลจิสติกส์และกระบวนการสั่งซื้อ (Logistics Communication and Order processing)
- 4. การขนส่ง (Transportation)
- 5. การเลือกสถานที่ตั้งของโรงงานและคลังสินค้า (Site Selection, Warehousing and Storage)
- 6. การวางแผนหรือการคาดการณ์ความต้องการของลูกค้า (Demand Forecasting and Planning)
- 7. การบริหารสินค้าคงคลัง (Inventory Management)
- 8. การจัดการเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ และการบรรจุหีบห่อ (Materials Handling and Packaging)
- 9. โลจิสติกส์ย้อนกลับ (Reverse Logistics)
โดยวัดผลการดำเนินงานใน 3 มิติ ประกอบด้วย
- 1. ด้านการบริหารต้นทุน (Cost Management) เป็นดัชนีที่แสดงถึงสัดส่วนต้นทุนของกิจกรรมโลจิสติกส์เปรียบเทียบ
กับยอดขายประจำปีทั้งหมดของกิจการ - 2. ด้านเวลา (Lead Time) เป็นดัชนีที่ใช้ข้อมูลระยะเวลาของการเคลื่อนย้ายสินค้าและข้อมูลที่เกิดขึ้นในแต่ละกิจกรรม
โลจิสติกส์ - 3. ด้านความน่าเชื่อถือ (Reliability) เป็นดัชนีที่ใช้วัดความน่าเชื่อถือเกี่ยวกับการส่งมอบสินค้าและการตอบสนองความ
ต้องการของลูกค้า
ผลการสำรวจข้อมูลของผู้ประกอบการชั้นนำ (Best in Class) จำนวนทั้งสิ้น 200 ราย ในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ และอุตสาหกรรมพลาสติก
ดาวน์โหลดผลการสำรวจข้อมูล : สำนักโลจิสติกส์ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่
ที่มา : สำนักโลจิสติกส์ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่