สรุปจบ! Safety กับ Buffer Stock ความแตกต่างและความสำคัญของสินค้าคงคลังสำรอง

สินค้าคงคลังสำรองหรือสินค้ากันชน (Safety Stock/Buffer Stock) คืออะไร?

สินค้าคงคลังสำรอง หรือ สินค้ากันชน (Safety Stock / Buffer Stock) คือสินค้าหรือวัสดุที่เก็บไว้ในปริมาณเกินกว่าปกติ เพื่อใช้เป็นสำรองในกรณีที่เกิดความไม่แน่นอนในกระบวนการผลิตหรือความต้องการที่สูงกว่าคาดการณ์ คงคลังสำรองนี้มีความสำคัญในการรักษาความเสถียรในกระบวนการผลิตและการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

ความสำคัญของสินค้าคงคลังสำรอง:

  1. ลดจากการขาดแคลน:
    • ช่วยป้องกันการขาดแคลนสินค้าหรือวัสดุในกรณีที่ความต้องการสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ หรือเกิดปัญหาในกระบวนการผลิต
  2. จัดการความแปรผันของการผลิต:
    • การมีสินค้าคงคลังสำรองช่วยให้กระบวนการผลิตสามารถทำงานได้อย่างราบรื่น แม้ในกรณีที่เกิดความไม่แน่นอนในกระบวนการผลิต
  3. การผลิต:
    • ทำให้กระบวนการที่เป็นจุดคอขวด (Bottleneck Process) สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องหยุดชะงักเนื่องจากการขาดแคลนวัสดุ

วิธีการคำนวณสินค้าคงคลังสำรอง แบบง่าย ๆ

การคำนวณสินค้าคงคลังสำรองสามารถทำได้โดยใช้สูตรพื้นฐาน ซึ่งรวมถึงการคำนวณปริมาณการสั่งซื้อปกติ (Order Quantity) และปริมาณความปลอดภัย (Safety Stock) ดังนี้:

สูตรการคำนวณ: Safety Stock = Max Lead Time Demand − Average Lead Time Demand

ตัวอย่างการคำนวณ:

  • ความต้องการวัสดุ: 1,000 หน่วยต่อเดือน
  • ระยะเวลาในการจัดส่ง: 2 สัปดาห์
  • ระดับการรักษาความปลอดภัยที่ต้องการ: 500 หน่วย

การคำนวณ:

  1. :
    • หากความต้องการเฉลี่ยต่อวันคือ 50 หน่วย และระยะเวลาในการจัดส่งคือ 14 วัน
    • Safety Stock = 50 หน่วย/วัน × 14 วัน = 700 หน่วย
  2. การคำนวณ Buffer Stock:
    • หากความต้องการวัสดุอยู่ที่ 1,000 หน่วยต่อเดือน และต้องการสำรองเพิ่มอีก 500 หน่วย
    • Buffer Stock = 1,000 หน่วย/เดือน + 500 หน่วย = 1,500 หน่วย

สินค้าคงคลังสำรองอย่างมีประสิทธิภาพเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การดำเนินงานของบริษัทมีความราบรื่นและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง การเข้าใจและการใช้สินค้าคงคลังสำรองอย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและความพึงพอใจของลูกค้า

ความแตกต่างระหว่าง สินค้าคงคลังสำรอง และ สินค้ากันชน (Safety Stock/Buffer Stock):

ลักษณะสินค้าคงคลังสำรองสินค้ากันชน (Safety Stock/Buffer Stock)
คำจำกัดความสินค้าหรือวัสดุที่เก็บไว้ในปริมาณที่เกินกว่าความต้องการปกติ เพื่อป้องกันการขาดแคลนสินค้าหรือวัสดุที่เก็บไว้เพื่อรองรับความไม่แน่นอนในความต้องการหรือกระบวนการผลิต
วัตถุประสงค์หลักเพื่อให้มั่นใจว่าสามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างต่อเนื่องแม้เกิดความแปรผันเพื่อจัดการกับความไม่แน่นอนในความต้องการและความแปรผันในกระบวนการผลิต
วิธีการคำนวณมักคำนวณจากปริมาณการสั่งซื้อปกติ (Order Quantity) และปริมาณความปลอดภัย (Safety Stock)คำนวณจากความแปรผันในความต้องการและการผลิต โดยปริมาณจะปรับตามสถานการณ์จริง
ตัวอย่างการใช้เก็บสินค้าหรือวัสดุเพิ่มเติมเพื่อป้องกันการขาดแคลนในช่วงที่ความต้องการสูงเก็บสินค้าสำรองในกรณีที่เกิดปัญหาในกระบวนการผลิต เช่น ปัญหาในการขนส่งหรือการผลิต
ประโยชน์ลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนสินค้าในกรณีที่ความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วลดจากความแปรผันในความต้องการและกระบวนการผลิต ทำให้กระบวนการผลิตราบรื่น
ข้อเสียอาจต้องใช้พื้นที่จัดเก็บและมีต้นทุนในการจัดเก็บที่เพิ่มขึ้นต้องมีการและอัปเดตข้อมูลอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ปริมาณสำรองเหมาะสม
ผลกระทบจากการจัดการการจัดการไม่ดีอาจทำให้มีสินค้าคงคลังล้นเกินหรือขาดแคลนการจัดการไม่ดีอาจทำให้มีสินค้าคงคลังไม่เพียงพอในกรณีที่เกิดปัญหาที่ไม่คาดคิด

ตารางนี้ช่วยให้เห็นความแตกต่างระหว่างสินค้าคงคลังสำรองและสินค้ากันชนได้ชัดเจนมากขึ้น ทั้งในด้านวัตถุประสงค์ การคำนวณ การใช้งาน และข้อดีข้อเสีย

ข้อดี ข้อเสีย และประโยชน์ของสินค้าคงคลังสำรอง (Safety Stock/Buffer Stock):

หัวข้อข้อดีข้อเสียประโยชน์
ลดความเสี่ยงจากการขาดแคลน– ลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนสินค้าหรือวัสดุในช่วงที่มีความต้องการสูง– ต้องการพื้นที่จัดเก็บเพิ่มเติม และอาจเพิ่มต้นทุนในการจัดเก็บ– ช่วยให้การผลิตไม่หยุดชะงักและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง
การจัดการความแปรผัน– ช่วยให้กระบวนการผลิตทำงานได้อย่างต่อเนื่องแม้ในช่วงที่ความต้องการแปรผัน– อาจเกิดการสิ้นเปลืองหากสินค้าคงคลังสำรองไม่ได้ถูกใช้งานตามที่คาดการณ์– ช่วยให้การผลิตมีความราบรื่นและไม่หยุดชะงัก เนื่องจากมีสินค้าสำรองในกรณีที่เกิดปัญหา
การเพิ่มความสามารถในการผลิต– ช่วยให้กระบวนการที่เป็นจุดคอขวดทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและลดความล่าช้าในการผลิต– การคำนวณปริมาณสินค้าคงคลังสำรองอาจต้องใช้เวลาและข้อมูลที่แม่นยำ– เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดการขาดแคลนวัสดุที่สำคัญ ทำให้การผลิตเป็นไปอย่างราบรื่น
การคำนวณและการควบคุม– สามารถคำนวณปริมาณสินค้าคงคลังสำรองได้อย่างแม่นยำ โดยใช้ข้อมูลการสั่งซื้อปกติและปริมาณปลอดภัย– ต้องมีการตรวจสอบและอัปเดตข้อมูลอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าปริมาณสินค้าคงคลังสำรองยังเหมาะสม– การควบคุมสินค้าคงคลังสำรองช่วยให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการที่ไม่คาดคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Q&A: Safety Stock กับ Buffer Stock

1. Safety Stock คืออะไร?

ตอบ: Safety Stock คือสินค้าหรือวัสดุที่เก็บไว้เพื่อป้องกันการขาดแคลนจากความต้องการที่สูงกว่าคาดการณ์ หรือปัญหาในกระบวนการผลิต เช่น ปัญหาการขนส่งหรือการผลิตที่ล่าช้า

2. Buffer Stock คืออะไร?

ตอบ: Buffer Stock คือสินค้าหรือวัสดุที่เก็บไว้เพื่อรองรับความไม่แน่นอนในความต้องการหรือกระบวนการผลิต โดยช่วยให้กระบวนการผลิตและสามารถดำเนินต่อไปได้แม้จะมีความแปรผัน

3. ความสำคัญของ Safety Stock คืออะไร?

ตอบ:

  • ลดความเสี่ยง: ป้องกันการขาดแคลนสินค้าหรือวัสดุ
  • จัดการความแปรผัน: ช่วยให้กระบวนการผลิตไม่สะดุดแม้ความต้องการมีการเปลี่ยนแปลง
  • เพิ่มประสิทธิภาพ: ช่วยให้การผลิตดำเนินไปอย่างราบรื่น แม้มีปัญหาในกระบวนการผลิต

4. ความสำคัญของ Buffer Stock คืออะไร?

ตอบ:

  • จัดการความไม่แน่นอน: รองรับความไม่แน่นอนในความต้องการหรือกระบวนการผลิต
  • ลดผลกระทบ: ลดความเสี่ยงจากปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในการผลิตหรือการขนส่ง

5. วิธีคำนวณ Safety Stock ทำอย่างไร?

ตอบ:

  • สูตร: Safety Stock = Max Time Demand – Average Lead Time Demand
  • ตัวอย่าง: หากความต้องการวัสดุคือ 1,000 หน่วยต่อเดือน และระยะเวลาในการจัดส่งคือ 2 สัปดาห์ (14 วัน) โดยความต้องการเฉลี่ยต่อวันคือ 50 หน่วย
    • Safety Stock = 50 หน่วย/วัน × 14 วัน = 700 หน่วย

6. วิธีคำนวณ Buffer Stock ทำอย่างไร?

ตอบ:

  • ตัวอย่าง: หากต้องการวัสดุ 1,000 หน่วยต่อเดือน และต้องการสำรองเพิ่มเติมอีก 500 หน่วย
    • Buffer Stock = 1,000 หน่วย + 500 หน่วย = 1,500 หน่วย

7. ความแตกต่างระหว่าง Safety Stock และ Buffer Stock คืออะไร?

ตอบ:

  • Safety Stock: เก็บเพื่อป้องกันการขาดแคลนในกรณีที่ความต้องการสูงขึ้นหรือเกิดปัญหา
  • Buffer Stock: เก็บเพื่อรองรับความไม่แน่นอนในกระบวนการผลิตหรือความต้องการ

8. ข้อดีและข้อเสียของ Safety Stock และ Buffer Stock?

ตอบ:

หัวข้อข้อดีข้อเสียประโยชน์
Safety Stock– ลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนสินค้า– ต้องการพื้นที่จัดเก็บและต้นทุนเพิ่มขึ้น– ช่วยให้การผลิตไม่หยุดชะงักและตอบสนองความต้องการได้ต่อเนื่อง
Buffer Stock– ลดผลกระทบจากความแปรผันในกระบวนการผลิต– อาจเกิดการสิ้นเปลืองหากไม่ใช้ตามคาดการณ์– ช่วยให้การผลิตราบรื่นแม้มีปัญหาการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
การคำนวณและการควบคุม– คำนวณได้อย่างแม่นยำ– ต้องตรวจสอบและอัปเดตข้อมูลบ่อยครั้ง– สามารถตอบสนองต่อความต้องการที่ไม่คาดคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ