วิธีคำนวณ FIFO: ตัวอย่างการคำนวณอย่างละเอียดเพื่อความเข้าใจ
วิธีคำนวณ FIFO (First In, First Out) พร้อมตัวอย่าง
การคำนวณ FIFO (First In, First Out) เป็นวิธีการที่ใช้ในการจัดการสินค้าคงคลัง โดยจะพิจารณาว่าสินค้าที่เข้ามาก่อนจะถูกขายออกไปก่อน เทคนิคนี้ช่วยให้การบันทึกบัญชีและการบริหารสินค้าคงคลังเป็นไปอย่างมีระเบียบ
ตัวอย่างการคำนวณ FIFO
ข้อมูลเบื้องต้น:
- 1 มกราคม: สินค้าคงเหลือยกมาจากปีก่อน จำนวน 100 ชิ้น ราคาซื้อชิ้นละ 2 บาท
- 8 มกราคม: ซื้อสินค้าเพิ่ม จำนวน 10 ชิ้น ราคาซื้อชิ้นละ 3 บาท
- 19 มกราคม: ขายสินค้าของวันที่ 1 มกราคม จำนวน 86 ชิ้น ราคาขายชิ้นละ 10 บาท
- 30 มกราคม: ขายสินค้าของวันที่ 8 มกราคม จำนวน 6 ชิ้น ราคาขายชิ้นละ 10 บาท
การคำนวณต้นทุนและกำไรขั้นต้น
1. คำนวณมูลค่าสินค้าคงเหลือปลายงวด
- จากวันที่ 8 มกราคม:
- สินค้าคงเหลือ 4 ชิ้น x ราคาซื้อชิ้นละ 3 บาท = 12 บาท
- จากวันที่ 1 มกราคม:
- สินค้าคงเหลือ 8 ชิ้น x ราคาซื้อชิ้นละ 2 บาท = 16 บาท
- มูลค่าสินค้าคงเหลือปลายงวด:
- 12 บาท (จากวันที่ 8 มกราคม) + 16 บาท (จากวันที่ 1 มกราคม) = 28 บาท
2. คำนวณต้นทุนขาย
- ต้นทุนขาย = มูลค่าของสินค้าที่ขายออกไป
- (86 ชิ้น x ราคาซื้อชิ้นละ 2 บาท) + (6 ชิ้น x ราคาซื้อชิ้นละ 3 บาท) = 172 บาท + 18 บาท = 190 บาท
3. คำนวณกำไรขั้นต้น
- รายได้จากการขาย:
- (92 ชิ้น x ราคาขายชิ้นละ 10 บาท) = 920 บาท
- กำไรขั้นต้น:
- รายได้จากการขาย – ต้นทุนขาย = 920 บาท – 190 บาท = 730 บาท
ข้อสรุป
การคำนวณ FIFO ช่วยให้สามารถติดตามต้นทุนและกำไรได้อย่างชัดเจน โดยการคำนวณมูลค่าสินค้าคงเหลือปลายงวดและต้นทุนขาย จะช่วยให้การบริหารสินค้าคงคลังมีความถูกต้องและแม่นยำ
ตัวอย่างการคำนวณ FIFO (First In, First Out) แบบซับซ้อน
ข้อมูลเบื้องต้น:
- 1 มกราคม: สินค้าคงเหลือ 100 ชิ้น ราคาซื้อชิ้นละ 2 บาท
- 5 มกราคม: ซื้อเพิ่ม 50 ชิ้น ราคาซื้อชิ้นละ 3 บาท
- 10 มกราคม: ซื้อเพิ่ม 70 ชิ้น ราคาซื้อชิ้นละ 4 บาท
- 15 มกราคม: ขาย 80 ชิ้น ราคาขายชิ้นละ 10 บาท
- 20 มกราคม: ซื้อเพิ่ม 30 ชิ้น ราคาซื้อชิ้นละ 5 บาท
- 25 มกราคม: ขาย 60 ชิ้น ราคาขายชิ้นละ 10 บาท
- 30 มกราคม: ขาย 40 ชิ้น ราคาขายชิ้นละ 10 บาท
1. คำนวณต้นทุนขาย
- ขาย 80 ชิ้น (15 มกราคม):
- สินค้า 100 ชิ้นที่ซื้อวันที่ 1 มกราคม:
- ต้นทุน 100 ชิ้น x 2 บาท = 200 บาท
- สินค้า 50 ชิ้นที่ซื้อวันที่ 5 มกราคม:
- ต้นทุน 50 ชิ้น x 3 บาท = 150 บาท
- สินค้า 30 ชิ้นที่ซื้อวันที่ 10 มกราคม (ส่วนที่เหลือ):
- ต้นทุน 30 ชิ้น x 4 บาท = 120 บาท
- รวมต้นทุนขาย 80 ชิ้น:
- 100 ชิ้น x 2 บาท + 50 ชิ้น x 3 บาท + 30 ชิ้น x 4 บาท = 200 บาท + 150 บาท + 120 บาท = 470 บาท
- สินค้า 100 ชิ้นที่ซื้อวันที่ 1 มกราคม:
- ขาย 60 ชิ้น (25 มกราคม):
- สินค้า 40 ชิ้นที่ซื้อวันที่ 10 มกราคม (ที่เหลือ):
- ต้นทุน 40 ชิ้น x 4 บาท = 160 บาท
- สินค้า 20 ชิ้นที่ซื้อวันที่ 15 มกราคม:
- ต้นทุน 20 ชิ้น x 5 บาท = 100 บาท
- รวมต้นทุนขาย 60 ชิ้น:
- 40 ชิ้น x 4 บาท + 20 ชิ้น x 5 บาท = 160 บาท + 100 บาท = 260 บาท
- สินค้า 40 ชิ้นที่ซื้อวันที่ 10 มกราคม (ที่เหลือ):
- ขาย 40 ชิ้น (30 มกราคม):
- สินค้า 10 ชิ้นที่ซื้อวันที่ 15 มกราคม (ที่เหลือ):
- ต้นทุน 10 ชิ้น x 5 บาท = 50 บาท
- สินค้า 30 ชิ้นที่ซื้อวันที่ 20 มกราคม:
- ต้นทุน 30 ชิ้น x 5 บาท = 150 บาท
- รวมต้นทุนขาย 40 ชิ้น:
- 10 ชิ้น x 5 บาท + 30 ชิ้น x 5 บาท = 50 บาท + 150 บาท = 200 บาท
- สินค้า 10 ชิ้นที่ซื้อวันที่ 15 มกราคม (ที่เหลือ):
2. คำนวณมูลค่าสินค้าคงเหลือ
- หลังการขาย 15 มกราคม:
- เหลือสินค้า 20 ชิ้นจากวันที่ 10 มกราคม (70 – 30 = 40 ชิ้น)
- เหลือสินค้า 50 ชิ้นจากวันที่ 20 มกราคม
- หลังการขาย 25 มกราคม:
- เหลือสินค้า 10 ชิ้นจากวันที่ 10 มกราคม (40 – 30 = 10 ชิ้น)
- เหลือสินค้า 10 ชิ้นจากวันที่ 15 มกราคม (50 – 20 = 30 ชิ้น)
- เหลือสินค้า 30 ชิ้นจากวันที่ 20 มกราคม
- หลังการขาย 30 มกราคม:
- เหลือสินค้า 10 ชิ้นจากวันที่ 15 มกราคม (30 – 10 = 20 ชิ้น)
- เหลือสินค้า 0 ชิ้นจากวันที่ 20 มกราคม (30 – 30 = 0 ชิ้น)
- มูลค่าสินค้าคงเหลือ:
- (10 ชิ้น x 4 บาท) + (20 ชิ้น x 5 บาท) = 40 บาท + 100 บาท = 140 บาท
3. คำนวณกำไรขั้นต้น
- รายได้จากการขาย:
- (80 ชิ้น x 10 บาท) + (60 ชิ้น x 10 บาท) + (40 ชิ้น x 10 บาท) = 800 บาท + 600 บาท + 400 บาท = 1800 บาท
- ต้นทุนขายรวม:
- 470 บาท + 260 บาท + 200 บาท = 930 บาท
- กำไรขั้นต้น:
- รายได้จากการขาย – ต้นทุนขาย = 1800 บาท – 930 บาท = 870 บาท