Toyota Production System (TPS) สรุปง่าย ๆ: เข้าใจทันที ระบบผลิตที่ลดความสูญเปล่า
การลดความสูญเปล่าด้วยหลักการระบบ Toyota Production System (TPS)
Toyota Production System (TPS) คืออะไร?
Toyota Production System (TPS) เป็นระบบการผลิตที่พัฒนาโดย Toyota Motors เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดความสูญเปล่าในกระบวนการผลิต โดยมุ่งเน้นที่การปรับปรุงคุณภาพ การลดต้นทุน และการลดเวลาในการผลิตและส่งมอบสินค้าสำเร็จรูป ระบบ TPS ประกอบด้วยสองเสาหลักสำคัญ ได้แก่ Just-in-Time (JIT) และ Jidoka ซึ่งจะช่วยลดความสูญเปล่าในกระบวนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวม
หลักการและวิธีการใน TPS
1. Just-in-Time (JIT)
JIT คือการผลิตและจัดส่งสินค้าตามความต้องการในเวลาที่กำหนด โดยมุ่งเน้นการลดสินค้าคงคลังและความสูญเปล่าในกระบวนการผลิต
- ระบบดึง (Pull System): ใช้การควบคุมเวลาการเคลื่อนย้ายวัตถุดิบและชิ้นส่วนผ่านระบบ KANBAN ซึ่งช่วยลดความซับซ้อนและเพิ่มความคล่องตัวในการผลิต
- กระบวนการผลิตต่อเนื่อง (Continuous Flow Processing): ลดปริมาณสำรองคลังในแต่ละรอบการผลิต เพื่อให้กระบวนการผลิตเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
- รอบการผลิต (Takt Time): ปรับปรุงกระบวนการให้ใช้เวลาในการผลิตน้อยที่สุด เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า
2. Jidoka
Jidoka หรือการควบคุมคุณภาพด้วยการหยุดการทำงานอัตโนมัติ ช่วยให้สามารถควบคุมปัญหาในกระบวนการผลิตได้อย่างรวดเร็ว
- Andon: ใช้ป้ายไฟเพื่อแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องทราบเมื่อเกิดปัญหาในสายการผลิต ช่วยให้สามารถตอบสนองได้ทันที
- Pokayoke: เครื่องมือที่ช่วยป้องกันข้อผิดพลาดในการผลิต เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพสูง
3. Kaizen
Kaizen หมายถึง การปรับปรุงอย่างต่อเนื่องที่มุ่งเน้นการสร้างนวัตกรรมใหม่และพัฒนากระบวนการผลิตอย่างไม่หยุดยั้ง
การขจัดความสูญเปล่า (MUDA, MURA, MURI)
- MUDA (การขจัดความสูญเปล่า): การลดกิจกรรมที่ไม่เพิ่มมูลค่า เช่น การเคลื่อนไหวของพนักงานที่ไม่จำเป็น
- MURA (ความไม่สม่ำเสมอ): การลดความไม่สม่ำเสมอในกระบวนการผลิต เพื่อให้มีการทำงานที่สม่ำเสมอ
- MURI (ภาระเกินความสามารถ): การลดภาระที่เกินความสามารถของบุคคลและอุปกรณ์ เพื่อหลีกเลี่ยงการทำงานหนักเกินไป
ข้อดีและข้อเสียของ TPS
ข้อดี:
- ลดต้นทุนการผลิตและการเก็บรักษาสินค้าคงคลัง
- เพิ่มคุณภาพผลิตภัณฑ์และลดข้อผิดพลาด
- เพิ่มประสิทธิภาพและลดเวลาในการผลิต
ข้อเสีย:
- อาจต้องลงทุนในการฝึกอบรมพนักงานและอุปกรณ์
- การนำ TPS ไปใช้ในบางองค์กรอาจมีความซับซ้อนและต้องใช้เวลานานในการปรับตัว
ค่าเสียโอกาส:
- หากระบบ TPS ไม่ได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้เสียโอกาสในการพัฒนานวัตกรรมและเพิ่มประสิทธิภาพ
ประโยชน์ที่ได้รับ:
- การลดของเสียและต้นทุนการผลิต
- การเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและการบริการ
- การปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์และกระบวนการทำงาน
การใช้ TPS สามารถนำมาซึ่งผลประโยชน์มากมายในด้านการลดความสูญเปล่าและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ทำให้เป็นระบบที่มีความสำคัญและได้รับการยอมรับในระดับโลก
ตารางเปรียบเทียบหลักการและวิธีการของ Toyota Production System (TPS) ที่จะช่วยให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น:
การใช้ตารางนี้จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมและข้อดีข้อเสียของแต่ละหลักการใน TPS ชัดเจนขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจและปรับปรุงกระบวนการผลิตในองค์กรของคุณ
หลักการ/วิธีการ คำอธิบาย ข้อดี ข้อเสีย ค่าเสียโอกาส ประโยชน์ที่ได้รับ Just-in-Time (JIT) ระบบการผลิตที่ส่งมอบสินค้าตามความต้องการในเวลาที่กำหนดและปริมาณที่ต้องการ โดยลดสินค้าคงคลังให้น้อยที่สุด ลดสินค้าคงคลัง, ลดต้นทุนการเก็บรักษา, เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ต้องการการวางแผนและการคาดการณ์ที่แม่นยำ, อาจมีความเสี่ยงหากเกิดปัญหาการขนส่งหรือการจัดหา อาจพลาดโอกาสในการตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นทันทีหากมีปัญหาการจัดส่งหรือการผลิต ลดต้นทุนการผลิต, เพิ่มความคล่องตัว, ปรับปรุงกระบวนการผลิต ระบบดึง (Pull System) การควบคุมปริมาณการเคลื่อนย้ายวัตถุดิบและชิ้นส่วนโดยใช้ KANBAN ช่วยลดการผลิตเกิน, ลดปัญหาคลังสินค้า, เพิ่มความคล่องตัวในการผลิต ต้องการการติดตามและการจัดการที่ดี, อาจเกิดปัญหาในกรณีที่การขาดแคลนวัตถุดิบ อาจทำให้ไม่สามารถตอบสนองคำสั่งซื้อฉุกเฉินหรือคำสั่งซื้อที่ไม่คาดคิดได้ทันที ปรับปรุงการควบคุมการผลิต, ลดการเก็บรักษาสินค้าคงคลัง, เพิ่มความยืดหยุ่นในการผลิต กระบวนการผลิตต่อเนื่อง (Continuous Flow Processing) การออกแบบกระบวนการผลิตให้มีการไหลอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดปริมาณสำรองคลัง ลดเวลาการรอคอย, เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต, ลดความสูญเปล่าในกระบวนการ อาจต้องมีการลงทุนในอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย, การเปลี่ยนแปลงการผลิตอาจใช้เวลานาน อาจสูญเสียโอกาสในการปรับกระบวนการตามความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต, ลดต้นทุนการผลิต, ปรับปรุงคุณภาพการผลิต Jidoka การควบคุมคุณภาพโดยให้พนักงานและเครื่องจักรหยุดการทำงานเมื่อเกิดปัญหาเพื่อป้องกันข้อผิดพลาด ป้องกันการผลิตสินค้าไม่สมบูรณ์, ลดข้อผิดพลาดในการผลิต, ปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์ การหยุดการผลิตอาจส่งผลต่อความต่อเนื่องของการผลิต, ต้องการการฝึกอบรมและการสนับสนุน อาจทำให้เสียโอกาสในการผลิตหากเกิดปัญหาบ่อยครั้ง, ต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์, ลดข้อผิดพลาด, เพิ่มความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ Andon ป้ายไฟเพื่อแจ้งปัญหาในสายการผลิต ช่วยให้สามารถตอบสนองปัญหาได้ทันที, เพิ่มความเร็วในการแก้ไขปัญหา อาจทำให้เกิดความยุ่งเหยิงหากไม่มีกระบวนการจัดการที่ดี อาจเสียโอกาสในการผลิตหากไม่มีการจัดการที่ดีเมื่อมีการแจ้งปัญหา เพิ่มการตอบสนองปัญหา, ปรับปรุงการจัดการปัญหาในสายการผลิต Pokayoke เครื่องมือป้องกันข้อผิดพลาดในการผลิต ลดข้อผิดพลาด, ปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์, ลดต้นทุนการตรวจสอบ ต้องการการลงทุนในอุปกรณ์และการฝึกอบรมพนักงาน อาจไม่สามารถป้องกันข้อผิดพลาดที่ไม่คาดคิดได้ทั้งหมด ลดข้อผิดพลาดในการผลิต, เพิ่มคุณภาพผลิตภัณฑ์, ลดต้นทุนการตรวจสอบ Kaizen การปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างนวัตกรรมและวิวัฒนาการในกระบวนการผลิต ส่งเสริมการพัฒนาและนวัตกรรม, ปรับปรุงกระบวนการอย่างสม่ำเสมอ, เพิ่มประสิทธิภาพ ต้องการความมุ่งมั่นและการมีส่วนร่วมจากทุกคนในองค์กร, อาจใช้เวลานานในการเห็นผลลัพธ์ อาจสูญเสียโอกาสในการแข่งขันหากไม่ปรับปรุงและพัฒนาตามความต้องการ ส่งเสริมการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง, เพิ่มนวัตกรรม, ปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิต
ตัวอย่างการใช้งานจริงของ Toyota Production System (TPS)
ในสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น สำนักงาน, โรงงานผลิต, ชีวิตประจำวัน, และสำหรับนักศึกษาในสาขาโลจิสติกส์:
1. การใช้งาน TPS ในสำนักงาน
ตัวอย่าง: การจัดการเอกสารและการทำงานเป็นทีม
- ระบบดึง (Pull System): ใช้เครื่องมือการจัดการงานเช่น Trello หรือ Asana เพื่อดึงงานที่ต้องทำจากระบบและจัดลำดับความสำคัญ ลดปริมาณเอกสารที่ค้างคา
- Kaizen: การประชุมปรับปรุงกระบวนการทำงานประจำสัปดาห์เพื่อค้นหาวิธีที่ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นในกระบวนการอนุมัติเอกสาร
ข้อดี: เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการเอกสาร, ลดเวลาในการดำเนินงาน
ข้อเสีย: ต้องการการฝึกอบรมและการปรับตัวจากทีม
2. การใช้งาน TPS ในโรงงานผลิต
ตัวอย่าง: การผลิตรถยนต์
- Just-in-Time (JIT): การจัดการสินค้าคงคลังเพื่อให้มีวัสดุและชิ้นส่วนเพียงพอในเวลาที่ต้องการ โดยไม่เก็บวัสดุส่วนเกินในคลัง
- Jidoka: การใช้ระบบ Andon ที่แจ้งปัญหาหากเครื่องจักรเกิดข้อผิดพลาด หรือใช้ Pokayoke เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดในสายการผลิต
ข้อดี: ลดต้นทุนการเก็บรักษาสินค้า, เพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์
ข้อเสีย: ความเสี่ยงหากเกิดปัญหาการจัดส่งหรือการผลิต
3. การใช้งาน TPS ในชีวิตประจำวัน
ตัวอย่าง: การจัดการเวลาส่วนตัวและงานบ้าน
- ระบบดึง (Pull System): การใช้แอพพลิเคชั่นจัดการเวลาเช่น Google Calendar เพื่อวางแผนและติดตามงานที่ต้องทำในแต่ละวัน
- Kaizen: การปรับปรุงกิจวัตรประจำวัน เช่น การทำความสะอาดบ้านหรือการจัดระเบียบพื้นที่เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ข้อดี: เพิ่มความเป็นระเบียบและประสิทธิภาพในการจัดการเวลา
ข้อเสีย: ต้องมีวินัยในการติดตามและปรับปรุง
4. การใช้งาน TPS สำหรับนักศึกษาในสาขาโลจิสติกส์
ตัวอย่าง: การจัดการโครงการกลุ่มและการศึกษา
- Just-in-Time (JIT): การจัดการการส่งมอบรายงานและการเตรียมงานกลุ่มโดยใช้ทรัพยากรและข้อมูลที่ทันสมัยและตามกำหนดเวลาที่แน่นอน
- Jidoka: การใช้ระบบตรวจสอบและย้อนกลับเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดในงานวิจัยหรือโครงการกลุ่ม
ข้อดี: เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานกลุ่ม, ลดข้อผิดพลาดในงานวิจัย
ข้อเสีย: ต้องมีการวางแผนและการสื่อสารที่ดีเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา
การใช้ TPS ในแต่ละสถานการณ์ช่วยให้เข้าใจการปรับปรุงประสิทธิภาพและลดความสูญเปล่าได้ดียิ่งขึ้น โดยสามารถนำหลักการต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสมตามความต้องการของแต่ละบุคคลหรือองค์กร
ขอบคุณเจ้าค่ะ สำหรับข้อมูล
คุณ อธิบายถืง 2 เสาหลักของ tps เบื้องต้น และการขจัด muda mura muri แต่ งานมาตราฐานกับการ kaizen รวมถึงการ heijunka ไม่ได้อธิบาย
To K.marut (J Tekt)? ถ้ามีเนื้อหาที่อธิบายที่ครอบคลุม ให้ส่งให้ได้ป่ะ?
komsan(J Tekt) ขอบคุณ
เป็นระบบที่น่าสนใจ เพราะปกติผมก็ทำส่ง TOYOTA อยู่แล้วพอรู้พื้นฐาน
ปี 56 ผมทดลองนำมาใช้กับบริษัทที่ไม่เกี่ยวข้องกับโตโยต้า น่าทึ่งคับ