e-Logistics คืออะไร? ระบบจัดการขนส่งและคลังสินค้า
e-Logistics (อีโลจิสติกส์) คืออะไร?
e-Logistics คือระบบที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการจัดการการเคลื่อนย้ายสินค้าและปัจจัยต่างๆ จากแหล่งผลิตไปยังลูกค้า โดยมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งสินค้าให้เร็วขึ้น ลดต้นทุน และลดความผิดพลาดในการจัดส่ง
ตัวอย่างการนำ e-Logistics ไปใช้:
- PMS (Parking Management System): ระบบจัดการการขนส่งทางรถยนต์ ที่ช่วยในการรับคำสั่ง, วางแผน, จัดสรรงาน, และบันทึกข้อมูลรถยนต์และพนักงาน รวมถึงการออกใบเสร็จ
- WMS (Warehouse Management System): ระบบบริหารคลังสินค้า ที่ครอบคลุมการรับสินค้า, การจัดเก็บ, และการจ่ายสินค้า
- Phase Management System: ระบบบริหารการขนส่งที่เน้นการจัดการค่าใช้จ่ายในแต่ละรูปแบบการขนส่ง
- CMS (Container Yard Management System): ระบบจัดการลานตู้ Container เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการ
- SMS (Ship Management System): ระบบจัดการสินค้าบนเรือ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขนถ่าย
- MMS (Maintenance Management System): ระบบการจัดการการซ่อมบำรุง รวมถึงการควบคุมอะไหล่, จำนวนช่าง, และประวัติการซ่อม
- LMS (Logistics Management System): ระบบบริหารจัดการโลจิสติกส์แบบ One-stop service ที่ช่วยรวมทุกบริการไว้ในที่เดียว
ประโยชน์ของ e-Logistics:
- เพิ่มความรวดเร็วและความถูกต้อง: ทำให้ธุรกรรมและกระบวนการทำงานขององค์กรมีความถูกต้องและรวดเร็วมากขึ้น
- บริการที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ: ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบเทคโนโลยีสารสนเทศ
- ข้อมูลครบถ้วนและทันเวลา: การได้รับข้อมูลข่าวสารที่ครบถ้วนและทันเวลาทำให้การประสานงานระหว่างฝ่ายต่างๆ เป็นไปได้อย่างราบรื่น
- เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน: ช่วยให้เกิดการแข่งขันที่มากขึ้น และสร้างช่องทางการขายและจัดจำหน่ายใหม่ๆ
- ความได้เปรียบทางการค้า: เพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันกับคู่แข่งทางการค้า
-Logistics: ข้อดี ข้อเสีย ประโยชน์ และค่าใช้เวลา
หมวดหมู่ | ข้อดี | ข้อเสีย | ประโยชน์ | ค่าใช้เวลา |
---|---|---|---|---|
PMS (Parking Management System) | – เพิ่มความสะดวกในการจัดการรถยนต์ – ลดการเสียเวลาจากการค้นหาที่จอดรถ | – ต้องการการบำรุงรักษาระบบ – ต้องใช้เทคโนโลยีใหม่ | – การจัดการที่จอดรถมีประสิทธิภาพ – ลดปัญหารถติดในพื้นที่ | การตั้งค่าเริ่มต้นอาจใช้เวลาหลายวัน |
WMS (Warehouse Management System) | – เพิ่มความแม่นยำในการจัดการคลังสินค้า – ลดข้อผิดพลาดในการเก็บและจัดส่งสินค้า | – ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งสูง – ต้องการการฝึกอบรมพนักงาน | – เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการคลังสินค้า – ลดการสูญหายของสินค้า | การติดตั้งและฝึกอบรมอาจใช้เวลา 2-4 สัปดาห์ |
Phase Management System | – ควบคุมค่าใช้จ่ายในการขนส่งได้ดี – ทำให้การขนส่งมีความโปร่งใส | – การใช้งานอาจยุ่งยากในช่วงแรก – ต้องการการอัปเดตระบบสม่ำเสมอ | – เพิ่มความแม่นยำในการคำนวณค่าใช้จ่าย – ลดค่าใช้จ่ายโดยรวม | การปรับใช้และตั้งค่าอาจใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ |
CMS (Container Yard Management System) | – เพิ่มความสามารถในการจัดการพื้นที่ตู้คอนเทนเนอร์ – ลดเวลาในการค้นหาตู้ | – ต้องการการบำรุงรักษาและการอัปเดตอย่างสม่ำเสมอ – ค่าใช้จ่ายสูง | – การจัดการลานตู้มีประสิทธิภาพ – ลดเวลาในการโหลดและขนถ่าย | การตั้งค่าเริ่มต้นอาจใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ |
SMS (Ship Management System) | – เพิ่มประสิทธิภาพในการขนถ่ายสินค้าบนเรือ – ลดปัญหาการขนส่งล่าช้า | – ต้องการการตรวจสอบและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ – ระบบซับซ้อน | – การขนถ่ายสินค้ามีความปลอดภัยและรวดเร็ว – ลดข้อผิดพลาดในการจัดการสินค้า | การติดตั้งและฝึกอบรมอาจใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ |
MMS (Maintenance Management System) | – เพิ่มความสามารถในการจัดการการซ่อมบำรุง – ควบคุมต้นทุนอะไหล่และช่างได้ดี | – ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งสูง – การเรียนรู้ระบบอาจใช้เวลา | – การจัดการซ่อมบำรุงมีประสิทธิภาพ – ลดเวลาในการซ่อมบำรุง | การตั้งค่าและฝึกอบรมอาจใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ |
LMS (Logistics Management System) | – ระบบรวมบริการทั้งหมดในที่เดียว – เพิ่มความสะดวกในการจัดการโลจิสติกส์ | – การนำไปใช้ครั้งแรกอาจซับซ้อน – ต้องการการอัปเดตและบำรุงรักษา | – บริการครบวงจรที่สะดวก – ลดความยุ่งยากในการจัดการ | การติดตั้งและปรับใช้อาจใช้เวลา 3-4 สัปดาห์ |